สิ่งที่ควรรู้
ขอแนะนำในส่วนการเตรียมไฟล์เพื่อส่งงานพิมพ์ครับ การเตรียมไฟล์อย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยลดขั้นตอนในการตรวจเช็คไฟล์ทำให้งานเสร็จเร็วแล้ว
ยังช่วยลดปัญหาความผิดพลาดต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยพื้นฐานมีหัวข้อหลักที่ต้องคำนึงถึงดังนี้
1. โหมดสีของไฟล์งาน
2. ระยะขอบ (Margin) และระยะตัดตก (Bleed)
3. ฟอนต์
4. การเซฟไฟล์เพื่อส่งพิมพ์
โหมดสีของไฟล์งาน
การพิมพ์ในระบบดิจิตอลออฟเซ็ตนั้นไฟล์งานควรอยู่ในโหมด CMYK และทางร้านแนะนำให้ใช้โปร์ไฟล์สีเป็น Coated FOGRA39 (ISO 12647-2:2004) จะให้สีที่ตรงกว่า
ระยะขอบ (Margin) และระยะตัดตก (Bleed)
ระยะขอบและระยะตัดตก เป็นอีกส่วนสำคัญของการเตรียมงานสำหรับพิมพ์ในระบบดิจิตอลออฟเซ็ต ระยะขอบ (Margin) จะอยู่ด้านในขอบชิ้นงานเข้ามา เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่จะวางตัวอักษรและลวดลายกราฟฟิคที่มีความสำคัญที่จะไม่ถูกตัดโดยเครื่องตัดกระดาษ ระยะตัดตก (Bleed) จะอยู่นอกขอบงานออกไป ส่วนนี้จะถูกตัดทิ้ง แต่หากไฟล์มีพื้นหลังเป็นพื้นสีหรือลวดลาย texture ควรจะเทสีลงไปจนถึงสุดระยะตัดตกแม้จะถูกตัดทิ้งไปก็ตาม
ไฟล์ที่จะส่งพิมพ์ในระบบดิจิตอลออฟเซ็ตควรมีระยะขอบทุกด้านอย่างน้อย (บน-ล่าง-ซ้าย-ขวา) 3 มม. และระยะตัดตกทุกด้านอีก 3 มม. ลองดูตัวอย่างภาพด้านล่างประกอบครับ
ฟอนต์ สำหรับลูกค้าที่ส่งไฟล์งานมาเป็นไฟล์ PSD (Photoshop), AI (Illustrator) หรือ INDD (InDesign) หากฟอนต์ที่ลูกค้าใช้ในการออกแบบชิ้นงานไม่ตรงกับฟอนต์ที่มีอยู่กับทาง Trio-3D อาจจะทำให้เกิดปัญหารูปแบบตัวอักษรในชิ้นงานไม่ตรงกับที่ออกแบบมา เพราะฉะนั้นลูกค้าจะต้องทำการแปลงฟอนต์ตัวอักษรหรือข้อความต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปของกราฟฟิคก่อน ด้วยการ Convert to Shape (Photoshop) หรือ Create Outlines (Illustrator หรือ InDesign) สำหรับลูกค้าที่ส่งไฟล์งานเป็น PDF ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้
สรุป
เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็จะสามารถส่งไฟล์ที่เหมาะสมกับงานพิมพ์มาให้ทางร้านดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ลดความผิดพลาดในการทำงาน และยังเป็นขั้นตอนการทำงานมาตรฐานสำหรับงานพิมพ์อย่างมืออาชีพอีกด้วย หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่
ฝ่ายแบบ : 081-900-8356
Email : [email protected]